วรรณกรรมท้องถิ่น


ความหมาย ประเภท ลักษณะและคุณค่าของวรรณกรรมท้องถิ่น 


     ๑. ความหมาย วรรณกรรมท้องถิ่น  หมายถึง วรรณกรรมที่ถ่ายทอดในกลุ่มคนใด กลุ่มคนหนึ่ง
มาเป็นเวลานาน ผู้เล่าหรือผู้เขียนเป็นคนในท้องถิ่นถ่ายทอดให้แก่คนในท้องถิ่น เดียวกับตน  โดย
การบอกเล่าหรือเขียนบันทึกไว้ 
     ๒. ประเภท วรรณกรรมท้องถิ่นแบ่งได้เป็น ๒ ประเภท คือ
          ๑.๑ ประเภทไม่ได้เขียนเป็นลายลักษณ์หรือประเภทมุขปาฐะ เป็นวรรณกรรม ปากเปล่า จะ
ถ่ายทอดโดยการบอก หรือการเล่า หรือการร้อง ได้แก่  บทกล่อมเด็ก นิทานพื้นบ้าน เพลงพื้นบ้าน
ปริศนาค าทาย ภาษิต ส านวน โวหาร ค ากล่าวในพิธีกรรมต่าง ๆ และตัวบทที่ท่องจ าในการแสดง
เพลงพื้นบ้าน
          ๑.๒ ประเภทเขียนเป็นลายลักษณ์ ได้แก่ นิทาน ค ากลอน บันทึกทางประวัติศาสตร์  ใน
ท้องถิ่นและต าราความรู้ต่าง ๆ

     ๓. ลักษณะ วรรณกรรมท้องถิ่นทั้ง ๔ ภาค มีลักษณะ ดังนี้
          ๓.๑ ใช้ภาษาถิ่นและตัวอักษรท้องถิ่น แต่เดิมวัดเป็นศูนย์กลางของการศึกษา  ในท้องถิ่น
วรรณกรรมท้องถิ่นในยุคที่ใช้ระบบการคัดลอกด้วยมือใช้ตัวอักษรของถิ่นในการ
บันทึก ตัวอักษรที่ใช้บันทึกในแต่ละภาคมีความต่างกัน และมีประวัติเก่าแก่เช่นเดียวกับอักษร  ที่เรา
ใช้อยู่ปัจจุบัน
          ๓.๒ ใช้รูปแบบค าประพันธ์ท้องถิ่น วรรณกรรมท้องถิ่นทั้ง ๔ ภาค ส่วนใหญ่เป็น ร้อยกรอง
มากกว่าร้อยแก้ว ค าประพันธ์ที่ใช้เรียงร้อยถ้อยค าเข้าด้วยกัน มีลีลาคล้องกับส าเนียง  ภาษาท้องถิ่น
และเอื้อต่อการออกเสียงเป็นท านอง รูปแบบค าประพันธ์ที่ใช้แต่งวรรณกรรม  จึงแตกต่างกันไปตาม
ความนิยมของแต่ละภาค
          ๓.๓ ใช้รูปแบบการประพันธ์คล้ายคลึงกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องราวทางศาสนา ได้แก่  นิทาน
ชาดกและวรรณกรรมค าสอน วรรณกรรมส่วนใหญ่มุ่งสอนจริยธรรมแก่สังคม โดยยึด  หลักธรรม
ทางพุทธศาสนาควบคู่ไปกับการให้ความบันเทิง
          ๓.๔ วรรณกรรมนิทานนิยายแบบนิยายชีวิตเป็นวรรณกรรมที่ชาวท้องถิ่นนิยมมาก  นอกจาก
อ่านหรือเล่าสู่กันฟังแล้ว ยังน าไปแสดงในรูปแบบของละครพื้นบ้าน  วรรณกรรม
ชนิดนี้ จ าลองชีวิตครอบครัวที่อาจจะเกิดขึ้นกับใครก็ได้ มีหลายรส  มีทั้งรัก โศก ตัดพ้อต่อว่า และ
สอนคติธรรม
          ๓.๕ รายละเอียดในวรรณกรรมสะท้อนวัฒนธรรมท้องถิ่น รายละเอียดวรรณกรรมเช่น ฉาก
ภูมิประเทศ ชีวิตความเป็นอยู่ ประเพณี ค่านิยมต่าง ๆ จะสะท้อนวัฒนธรรมของ
ท้องถิ่นนั้น ๆ
     ๔. คุณค่า วรรณกรรมท้องถิ่นมีคุณค่ามากมายสรุปได้ดังนี้
          ๔.๑ ด้านจริยศาสตร์  มีคุณค่าต่อจิตใจ มีคติเตือนใจและสอนให้เป็นคนดี
          ๔.๒ ด้านสุนทรียศาสตร์ มีคุณค่าต่อความไพเราะ ความงามของภาษา ถ้อยค า ลีลา
ท่วงท านองของบทเพลง และบทกวี
          ๔.๓ ด้านศาสนา เป็นสื่อถ่ายทอดค าสอนและปรัชญาทางศาสนา เผยแพร่สู่ประชาชน ได้
กว้างขวาง ท าให้ประชาชนมีหลักยึดเหนี่ยวจิตใจและได้ข้อคิดในการด ารงชีวิต
          ๔.๔ ด้านการศึกษา ให้ประชาชนได้ฟังหรืออ่าน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์
          ๔.๕ ด้านภาษา เป็นสื่อให้ภาษาท้องถิ่นด ารงอยู่  ซึ่งควรแก่การอนุรักษ์และสืบทอด
          ๔.๖ ด้านสังคม ปลูกฝังการช่วยเหลือกัน การผูกมิตร การมีมนุษยสัมพันธ์ และพึ่งพาอาศัยกัน
          ๔.๗ ด้านประวัติศาสตร์และโบราณคดี ได้ความรู้เกี่ยวกับต านาน ชื่อสถานที่  ใน
ประวัติศาสตร์ โบราณสถานและโบราณวัตถุ  ให้ผู้ศึกษาได้รับความรู้เกี่ยวกับความเป็นมา และ
รายละเอียด
          ๔.๘ ด้านประโยชน์ใช้สอย โดยการน าวรรณกรรมท้องถิ่นไปใช้ เช่น น าบทกล่อมเด็ก  ไปใช้
กล่อมเด็ก น าเพลงพื้นบ้านไปใช้ประกอบการแสดง หรือการน าต ารารักษาโรค ไปใช้  ประกอบ
อาชีพ
สรุป
     วรรณกรรมท้องถิ่นเป็นวรรณกรรมที่ถ่ายทอดในกลุ่มชนใดกลุ่มชนหนึ่งมาเป็นเวลานาน  มีทั้งที่
เขียนเป็นลายลักษณ์ เช่น นิทาน ต าราและบันทึก และมีทั้งที่ไม่ได้เขียนเป็น ลายลักษณ์ หรือมุข
ปาฐะ ใช้การพูด การบอก การเล่า หรือการร้องสืบทอดกันมา เช่น  เพลงพื้นบ้าน และบทกล่อมเด็ก
เป็นต้น
     วรรณกรรมท้องถิ่นมีคุณค่าต่อชีวิตความเป็นอยู่ ได้ความรู้ ได้ข้อคิดในการด ารงชีวิต  ให้ข้อคิด
ข้อเตือนใจตลอดจนสามารถน าความรู้จากการได้ศึกษาไปประยุกต์ใช้ประกอบ  อาชีพได้
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น